ทัพ “อัศวินสีส้ม” ยังคงต้องรอแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกต่อไป หลังต้องอกหักพ่ายต่อ อาร์เจนตินา ในการดวลจุดโทษ จอดป้ายเพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
หลังการตกรอบ หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศวางมือจากการคุมทีมและเป็น โรนัลด์ คูมัน เข้ามารับช่วงต่อ
เนเธอร์แลนด์ ต้องรอโอกาสลุ้นแชมป์โลกอีกครั้งในปี 2026 ซึ่งแน่นอนว่าอายุที่มากขึ้นของแข้งซีเนียร์บางรายอาจทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ในทีมชุดลุยฟุตบอลโลกครั้งต่อไป
แล้วถึงเวลานั้นพวกเขายังยังดีพอจะลุ้นความสำเร็จและแข้งเลือดใหม่จะยังทำให้พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่หรือไม่
และนี้คือเหล่านักเตะที่เราคิดว่า เนเธอร์แลนด์ จะเลือกไปลุยฟุตบอลโลกในปี 2026
GK: ยุสติน ไบโลว์
หลุยส์ ฟาน กัล ทำเซอร์ไพรส์เล็กน้อยเมื่อเลือก อันเดรียส นอพเพิร์ท ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติเลยเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก 2022 และเขาก็ทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง
อย่างไรก็ตาม อีก 4 ปีข้างหน้าคาดว่า ไบโลว์ ที่อยู่ในทีมชุดฟุตบอลโลก 2022 เช่นกัน จะได้โอกาสก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งแทน
ไบโลว์ ผู้รักษาประตูจาก เฟเยนูร์ด ติดทีมชาติไปแล้ว 6 นัด และเราคาดว่าสถิติจะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในช่วง 3 ปีครึ่งข้างหน้า
CB: ยูร์เรียน ทิมเบอร์
ทิมเบอร์ เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในแนวรับของ เนเธอร์แลนด์ ในฟุตบอลโลก 2022 และทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
กองหลังจาก อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพิ่งอายุเพียง 21 ปี ซึ่งไม่ว่า โรนัลด์ คูมัน จะปรับไปใช้ระบบอะไร เขาก็จะยังเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมแน่นอน
CB: มัทไธส์ เดอร์ลิกต์
อีก 4 ปีข้างหน้า เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังตัวหลังของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ จะอายุได้ 34 ปี แม้ว่าจะยังไม่มากเกินไป แต่ต้องดูว่าสภาพร่างกายกับฟอร์มการเล่นของเขาจะยังสามารถยึดตัวจริงได้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน เดอ ลิกต์ จะมีอายุเพียง 26 ปี เท่านั้น และเขาจะอยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์เต็มที่ โดยมีการคาดการณ์กันว่า เดอ ลิกต์ มีโอกาสจะได้รับบทกัปตันทีมคนต่อไปในเร็วๆนี้
CB: สเวน บอทแมน
บอทแมน โชคไม่ดีที่หลุดจากทีมชุดฟุตบอลโลก 2022 เพราะมีคู่แข่งหลายรายในครั้งนี้ แต่อีกไม่นานเขาจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักแน่นอน
แนวรับจาก นิวคาสเซิล โชว์ฟอร์มคุมแผงหลังให้ทัพ “สาลิกาดง” ได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ และด้วยอายุเพียง 22 ปี มีโอกาสสูงเลยที่เขาจะเบียด นาธาน อาเก้ และ สเตฟาน เดอ ไฟร ติดทีมในอีก 4 ปีข้างหน้า
RWB: เดนเซล ดุมฟรีส
ดุมฟรีส มีสไตล์การเล่นที่เร้าใจและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลชาว เนเธอร์แลนด์ ในทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ 2 รายการล่าสุด
ด้วยการเติมเกมรุกที่จัดจ้านและการเปิดบอลที่แม่นยำ อีก 4 ปีข้างหน้าเขาจะอายุ 30 ปี แต่เชื่อว่าเขาจะยังยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างแน่นอน หากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน
CM: ไรอัน กราเวนเบิร์ช
เมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่า กราเวนเบิร์ช จะไม่ติดทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 แต่หลังจากการย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค และแทบไม่ได้โอกาสลงสนามทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล เลือกจะมองข้ามเจ้าหนูรายนี้ไป
อย่างไรก็ตาม กราเวนเบิร์ช คือหนึ่งในกองกลางที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในรุ่นของเขา และเชื่อได้เลยว่าเขาจะต่อสู้เพื่อกลับมามีชื่ออยู่ในทีมอีกครั้งแน่นอนในอีก 4 ปีข้างหน้า
CM: แฟรงกี้ เดอ ยอง
เดอ ยอง เป็นกำลังหลักในแดนกลางของ เนเธอร์แลนด์ ในฟุตบอลโลก 2022 แถม เดอ ยอง ยังได้พิสูจน์แล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่เนื้อหอมที่สุดในยุโรป
เขาจะอายุ 29 ปี ในฟุตบอลโลกครั้งหน้า ซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่เพรียบพร้อมทั้งประสบการณ์และสภาพร่างกายที่สมบูรณ์
CM: ซาฟี ซิมอนส์
หลังย้ายออกจาก psg เพื่อโอกาสลงสนามที่มาขึ้น ซิมอนส์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ พีเอสวี จนทำให้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดฟุตบอลโลก 2022
ดาวเตะวัย 19 ปี มีเวลาอีก 3 ปีครึ่งในการพัฒนาฝีเท้าให้ดีขึ้นไปอีก และเชื่อได้เลยว่าเขาจะเป็นหนึ่งในดาวเด่นในฟุตบอลโลกครั้งหน้าอย่างแน่นอน
LWB: ไตเรลล์ มาลาเซีย
ดาลีย์ บลินด์ อาจยังเล่นต่อในยูโร 2024 แต่สำหรับฟุตบอลโลก 2026 แบ็คซ้ายจอมเก๋าคงจะวางมือให้รุ่นน้องค่อนข้างแน่
มาลาเซีย ถูกวางให้เป็นตัวสำรองของ บลินด์ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และอีกสี่ปีข้างหน้าวิงแบ็คซ้ายจาก แมนฯยูไนเต็ด จะก้าวขึ้นมารับหน้าที่กำลังหลักแบบเต็มตัว
ST: โกดี้ คักโป
ไม่ต้องสงสัยเลย คักโป เป็นหนึ่งในดาวเด่นของฟุตบอลโลกครั้งนี้ และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถลงเล่นในทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ได้อย่างไม่มีปัญหา
ฟุตบอลโลกครั้งหน้าเขาจะอายุเพียง 27 ปี และจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวความหวังของทีมในการลุ้นแชมป์
ST: เมมฟิส เดปาย
เราอาจรู้สึกว่า เดปาย ติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์มายาวนาน แต่เขาตอนนี้เขาเพิ่งอายุเพียง 28 ปี เท่านั้น และหากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน เขาจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชุดฟุตบอลโลก 2026
โดยเฉพาะการเข้ามาทำหน้าที่ของ โรนัลด์ คูมัน ที่ชื่นชอบในตัวของ เดปาย มาตลอด ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเขาคือกำลังสำคัญของทีมแน่นอน
ที่มาของข่าว www.goal.com
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook