อุรุกวัย เอาชนะ กาน่า ในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม 2-0 ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ พลิกล็อกเอาชนะ โปรตุเกส 2-1
ทำให้ลูกได้เสียระหว่างทีมจอมโหด กับทีมโสมขาว บวกลบที่ 0 เท่ากัน แต่เกาหลีใต้เข้ารอบเพราะยิงประตูได้มากกว่า
โดยทาง ซัวเรซ เผยว่าทีมต้องได้จุดโทษถึง 2 ครั้ง แต่กรรมการกลับมองว่าทั้งสองจังหวะไม่เป็นจุดโทษ หลังสิ้นเสียงนกหวีดเจ้าตัวแสดงอาการไม่พอใจการตัดสินอย่างชัดเจน
อดีตกองหน้าทีมลิเวอร์พูลและบาร์เซโลน่า หลั่งน้ำตาหลังจากอุรุกวัยต้องตกรอบฟุตบอลโลก 2022 แต่สิ่งต่าง ๆ ยังคงเลวร้ายยิ่งกว่าสำหรับ ซัวเรซ ซึ่งได้อธิบายความโกรธและความโศกเศร้าของเขากับสถานีโทรทัศน์ TeleDoce
ซัวเรซ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเศร้าและผิดหวัง ลูกชายของผมต้องออกจากสนามด้วยภาพแห่งความโศกเศร้า ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นพ่อมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ”
และ หลุยส์ ซัวเรซ ยังได้ออกมาให้สัมภาษณ์วิจารณ์ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ว่าพยายามกลั่นแกล้งชาติของเขา เพราะมักจะทำตัวเป็นปกปักษ์กับอุรุกวัยเสมอ
“ผมเห็นจังหวะที่ เอดินสัน คาวานี ปะทะกับกองหลังของคู่แข่ง และมันต้องเป็นจุดโทษ”
“ไหนจะจังหวะของ ดาร์วิน นูเญซ ก็ชัดเจนเหมือนกัน ฟีฟ่าต้องชี้แจงให้ชัดเจน พวกเขาต้องพยายามอธิบายให้ตัวเองดูดีขึ้นให้ได้เป็นอย่างน้อย”
“ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมปัญหาต้องเกิดกับอุรุกวัยเสมอ ดูเหมือนว่าเราต้องต่อสู้กับอำนาจอื่นเพื่อให้ทุกอย่างมันลุล่วงไปได้ดีกว่านี้ แต่นี่คือฟีฟ่า” ดาวยิงอุรุกวัย ทิ้งท้าย
แม้ อุรุกวัย จะเอาชนะ กาน่า 2-0 จากการเหมาคนเดียวสองประตูของ จอร์เจียน เดอ อาร์ราสเคตา คว้าสามแต้ม มี 4 คะแนน จาก 3 นัด มีแต้มเท่ากับเกาหลีใต้ รวมถึงลูกได้-เสีย ก็เป็น 0 เท่ากัน
แต่เป็นยอดทีมจากทวีปเอเชียที่คว้าตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้าย จากการยิงประตูที่มากกว่าด้วยจำนวน 4 ลูก ส่วนทีม “จอมโหด” ยิงได้แค่ 2 ลูก
ทางด้าน กาน่า ที่ไม่เคยลืมความเจ็บปวดจากการพลาดจุดโทษของ อซาโมอาห์ กียาน ในคืนนั้นได้เลย แต่ตอนนี้พวกเขาจะสบายใจขึ้นบ้างในการดู ซัวเรซ เดินร้องไห้ออกจากสนาม
ที่มาของข่าว www.express.co.uk
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook